สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงมีพระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้าจิตรเจริญ" ทรงเป็นพระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย ประสูติเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2406 เป็นต้นราชสกุลจิตรพงศ์
เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๐๖ ทรงได้รับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนคะเด็ตทหาร จากนั้นผนวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร หลังจากนั้นทรงศึกษาวิชาการต่าง ๆ และราชประเพณี
พระองค์เจ้าจิตรเจริญทรงผนวชเป็นพระภิกษุใน พ.ศ. ๒๔๒๗ ครั้นลาผนวชแล้ว ทรงรัชราชการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระสติปัญญารอบรู้ เป็นที่วางพระราชหฤทัยจนได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ทรงรับราชการในตำแหน่งสำคัญ อยู่หลายหน่วยงานเพื่อวางรากฐานในการบริหารราชการให้มั่นคง ทั้งกระทรวงโยธาธิการ กระทรวงพระคลัง และกระทรวงวัง
ใน พ.ศ. 2452 ทรงกราบบังคมลาออกจากราชการ เนื่องจากประชวร ด้วยโรคพระหทัยโต ทรงปลูกตำหนักอยู่ที่คลองเตย และเรียกตำหนักนี้ว่า บ้านปลายเนิน ครั้นเมื่อรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ และโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงทรงพ้นจากตำแหน่ง
ถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนกรมขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ในบั้นปลายพระชนม์ทรงประทับที่บ้านปลายเนินจนสิ้นพระชนม์ลงเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ พระชันษา ๘๓ ปี ทรงเป็นต้นราชสกุล จิตรพงศ์
ทรงมีพระปรีชาสามารถในวิทยาการหลายแขนง เช่น ดนตรี อักษรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ งานช่าง และทรงมีผลงานสำคัญในด้านการช่างและศิลปะ
1. ด้านการเมืองการปกครอง ได้แก่
1.1) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงวัง เพื่อวางรากฐานการบริหารราชการให้มีความมั่นคง
1.2) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงเป็นอภิรัฐมนตรีที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน และหลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการเมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับนอกกรุงเทพ ฯ และนอกประเทศ
2. ด้านสังคมและวัฒนธรรม สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีฝีมือทางด้านการช่าง งานศิลปะเกือบทุกแขนง ทรงมีผลงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม นาฏศิลป์และดนตรี ทรงได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมระดับโลกประจำปี พ.ศ. 2506
ผลงานที่มีคุณค่าและมีชื่อเสียงของพระองค์ เช่น ผลงานออกแบบพระอุโบสถวัดราชาธิวาสและสถูปเจดีย์หลังพระอุโบสถ ออกแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ออกแบบตรากระทรวงต่าง ๆ อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 องค์พระธรณีบีบมวยผมที่เชิงสะพานผ่านภพลีลา ภาพจิตรกรรมมัจฉาชาดกที่หอพระคันธารราษฎรในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ภาพสีน้ำมันประกอบพระราชพงศาวดารสมัยอยุธยา ภาพร่างเรื่องเวสสันดรชาดกสำหรับเขียนลงบนผนังอุโบสถวัดราชาธิวาส ภาพเขียนพระสุริโยทัยขาดคอช้าง อีกทั้งทรงมีความรอบรู้และมีฝีมือทางดนตรีไทย ทรงประพันธ์เพลงต่าง ๆ มากมาย เช่น เพลงเขมารไทรโยค เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงมหาชัย เป็นต้น
นอกจากนี้ทรงเขียนจดหมายอภิปรายเรื่องต่าง ๆ ของไทยกับสมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นต้น จดหมายของทั้งสองพระองค์นี้ต่อมาพิมพ์ในชื่อ "สาสน์สมเด็จ" ซึ่งนับเป็นคลังความรู้หนึ่งในการศึกษาเรื่องต่าง ๆ ของไทย